ไขข้อสงสัย Resume กับ CV ต่างกันยังไง? พร้อมทริคที่ไม่ควรพลาด

หลายคนที่กำลังจะสมัครงานหรือย้ายงานน่าจะคุ้นเคยกับคำว่า เรซูเม่ (Resume) หรือ CV (Curriculum Vitae) บางคนอาจจะกำลังสงสัยว่าสองอย่างนี้มันต่างกันยังไง บางบริษัทต้องการเรซูเม่ แต่บางที่ก็ต้องการ CV แล้วความต่างของสองอย่างนี้มันต่างกันยังไง เราไปดูกันเลย

ก่อนที่เราจะไปดูถึงความแตกต่างของทั้งสองอย่างงนี้ เรามาดูสิ่งที่เหมือนกันของเรซูเม่ และ CV กันก่อน ทั้งเรซูเม่ และ CV คือเอกสารที่เราใช้ในการสมัครงานในองค์กรหรือบริษัทต่างๆ ข้อมูลที่เรซูเม่ และ CV มีเหมือนกันคือ ข้อมูลพื้นฐาน เช่น ชื่อ-นามสกุล ช่องทางการติดต่อ ประวัติการศึกษา และประวัติการทำงาน แต่ส่วนที่แตกต่างกันระหว่าง เรซูเม่ และ CV นั้นคือความละเอียดของข้อมูล ซึ่ง CV นั้นจะมีข้อมูลที่มีรายละเอียดมากกว่าเรซูเม่

เรซูเม่ (Resume) คืออะไร

เรซูเม่ (Resume) หรือ Résumé ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่าการสรุป ซึ่งหลักๆแล้วเรซูเม่นั้นจะมีความคล้ายกับ CV ที่จะเป็นเอกสารที่บอกถึงประวัติส่วนตัว ทั้งด้านการศึกษาและประวัติการทำงานเหมือนกับ CV แต่ในเรซูเม่จะไม่ได้ใส่ข้อมูลที่ละเอียดเท่ากับ CV

เรซูเม่จะนิยมใส่ข้อมูลหรือประสบการณ์ที่สอดคล้องกับตำแหน่งงานที่เราต้องการสมัคร และเรซูเม่สามารถออกแบบให้มีดีไซน์ที่เข้ากับตำแหน่งที่ต้องสมัครได้ เรซูเม่ที่ดีนั้นควรเขียนเฉพาะเจาะจงเพื่อสมัครตำแหน่งไดตำแหน่งหนึ่งเท่านั้น และเรียงข้อมูลจากประสบการณ์ที่ทำล่าสุดไว้ด้านบนและไล่ลงมาตามลำดับ ความยาวของเรซูเม่จะอยู่ที่ 1-2 หน้ากระดาษเท่านั้น

CV คืออะไร

CV ย่อมาจากคำว่า Curriculum Vitae ในภาษาละตินซึ่งแปลว่า course of life เป็นเอกสารที่บอกถึงประวัติส่วนตัวของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการศึกษา ประวัติการทำงาน รวมถึงผลงานด้านการวิจัย บทความของคุณที่เคยได้รับการเผยแพร่ รางวัลและความสำเร็จด้านการทำงานต่างๆ อย่างละเอียด

ส่วนมากแล้ว CV จะใช้ในการสมัครงานด้านวิชาการ งานด้านการวิจัย งานภาครัฐ ตำแหน่งที่เฉพาะทางระดับสูง หรือใช้ในการขอทุนการศึกษา จะมีความยาวอยู่ที่ 2-3 หน้ากระดาษ แต่ก็สามารถมีถึง 10 หน้าก็ได้ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และผลงานของคุณว่ามีมากน้อยแค่ไหน

เปรียบเทียบ เรซูเม่ และ CV

Topic	Resume	CV (Curriculum Vitae)
ประวัติส่วนตัว	ประวัติส่วนตัวโดยย่อ	ประวัติส่วนตัวโดยละเอียด
ประวัติการทำงาน	ประวัติการทำงานที่สอดคล้องกับตำแหน่งงาน	ประวัติการทำงาน ผลงานด้านการวิจัย บทความได้รับการเผยแพร่ รางวัล ทั้งหมดโดยละเอียด
การตกแต่ง	สามารถตกแต่งให้เหมาะสมกับตำแหน่งงานที่สมัคร	ตกแต่งให้เรียบร้อยเป็นทางการ
การเลือกใช้	ใช้สมัครงานตำแหน่งทั่วไป	สมัครงานด้านวิชาการ งานด้านการวิจัย งานภาครัฐ ตำแหน่งที่เฉพาะทางระดับสูง หรือขอทุนการศึกษา
จุดเด่น	แสดงจุดเด่นในการทำงาน	แสดงความเชี่ยวชาญทางด้านวิชาการ
จำนวนหน้า	1-2 หน้ากระดาษ	2-3 หน้ากระดาษ

สรุป

สรุปให้เข้าใจกันง่ายๆคือ เรซูเม่เป็นเอกสารที่แสดงจุดเด่นด้านการทำงานที่ประกอบไปด้วย ประวัติการศึกษา และประวัติการทำงานของเราโดยย่อ ใช้ในการสมัครงานในตำแหน่งทั่วไป (ตั้งแต่ระดับ Junior - Manager) ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทเอกชน ส่วน CV นั้นเป็นเอกสารประวัติของเราทั้งด้านการศึกษา ประวัติการทำงาน ประวัติด้านการวิจัยไปจนถึงบทความได้รับการเผยแพร่ และรางวัล อย่างละเอียด จะใช้ในการสมัครงานด้านวิชาการ งานของภาครัฐ หรือขอทุนการศึกษา

ทั้งนี้ผู้สมัครควรอ่านรายละเอียดการรับสมัครให้ละเอียดว่าทางบริษัทนั้นต้องการเรซูเม่หรือ CV ถ้าหากไม่มีกำหนดไว้อย่างชัดเจนแนะนำให้ส่งไปทั้งสองอย่าง

สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับการเขียน เรซูเม่ได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้

• เทคนิคสำหรับ HR การคัดเลือกสุดยอดเรซูเม่ (Resume) ภายใน 7 วินาที
• แชร์เทคนิค! เขียน CV เพื่อสมัครขอทุน
• Tip and Tricks เล็กๆในการเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษ

Bonus

ควรเขียนเรซูเม่เป็นภาษาอะไร?

⁠แนะนำให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษ

เคยไปเรียนคอร์สออนไลน์มาแล้วได้ใบ Certificate สามารถใส่เข้าไปในเรซูเม่ได้ไหม?

⁠ถ้าเป็น Certificate ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัครสามารถใส่ได้

ควรเรียงลำดับปีอย่างไร?

⁠เรียงจากประสบการณ์ล่าสุดและไล่ลงมา

พึ่งเรียนจบยังไม่มีประสบการณ์คสรใส่อะไรเข้าไปในเรซูเม่?

⁠ควรใส่กิจกรรม โปรเจค หรือผลงานที่ทำในคลาสที่ได้ทำในระหว่างเรียนที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัคร ควรใส่ระดับความสามารถที่ HR อ่านแล้วเข้าใจได้เลย เช่น ภาษาอังกฤษคุณอยู่ในระดับไหน Beginner, Intermediate, Stong, Expert (ไม่ควรใส่เป็นกราฟ)

ควรใส่ทักษะอะไรไปบ้าง?

⁠ควรใส่มักษะที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัครและทักษะที่เราสามารถทำได้ใน Medium ถึง Advance (ทักษะที่เราทำได้ไม่ถึง 40%-50% ไม่ควรใส่)

สิ่งตรวจเช็คอะไรก่อนส่งเรซูเม่และ CV?

⁠ข้อมูลการติดต่อ ไวยากรณ์ และใช้ฟ้อนต์ที่อ่านง่าย