10 เว็บไซต์ช่วยทำเรซูเม่ให้โดดเด่นจน HR ต้องเรียกสัมภาษณ์

สำหรับน้องๆ ที่กำลังจะจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหรือพนักงานที่กำลังมองหางานใหม่ สิ่งที่ควรให้ความสำคัญอันดับแรกเลยคือเรซูเม่

เรซูเม่ (Résumé) คือเอกสารที่บอกถึงประวัติส่วนตัว ทั้งด้านการศึกษาและประวัติการทำงานของผู้สมัคร ที่จะทำให้บริษัทหรือองค์กรรู้ถึงประวัติ ความสามารถ และประสบการณ์ของแบบคร่าวๆ

ซึ่งเรซูเม่ที่ดีควรมีข้อมูลที่ครบถ้วนและอ่านง่าย ซึ่งในบทความนี้เราได้รวบรวม 10 เว็บไซต์ที่ใช้ในการทำเรซูเม่ ที่มีรูปแบบหรือเทมเพลตให้เลือกมากมาย ซึ่งจะช่วยให้เรซูเม่ของเรานั้นมีข้อมูลครบถ้วน น่าสนใจ และโดดเด่นจากผู้สมัครคนอื่นๆ

ทำไมเราต้องใช้เว็บไซต์ในการทำเรซูเม่

ข้อดีของการที่เราใช้เว็บไซต์ช่วยทำเรซูเม่คือ ช่วยลดเวลาการทำเรซูเม่ของเรา ลดการตกหล่นของข้อมูลสำคัญ ในบางเว็บไซต์เพียงแค่เรากรอกข้อมูล เว็บไซต์สามารถจัดเรียงข้อมูลนั้นลงในเทมเพลตเรซูเม่ได้ทันที และแน่นอนว่ามีดีไซน์ให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบที่ฟรีและเสียเงิน และสุดท้ายทำให้ดูโปรเฟสชันนอลมากขึ้น

10 เว็บไซต์ช่วยทำเรซูเม่

1. Canva

ปัจจุบันไม่มีใครไม่รู้จัก Canvaซึ่งเป็นเครื่องมือในการออกแบบรูปภาพ ออกแบบโลโก้ ทำสไลด์พรีเซนต์ หรือแม้กระทั่งเรซูเม่ ซึ่งเรซูเม่เทมเพลตใน Canva นั้นมีให้เลือกมากกว่า 100 แบบ มีทั้งแบบที่ใช้ฟรีและแบบที่เสียเงิน

ข้อดี

• เว็บไซต์ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน ไม่มีพื้นฐานด้านกราฟิกดีไซน์ก็สามารถใช้งานได้
• มีเรซูเม่เทมเพลตให้เลือกมากกว่า 100 แบบ
• สามารถปรับแต่งเทมเพลตได้
• สามารถเรียนรู้การใช้งานหรือทริคต่างๆ ได้ใน YouTube, TikTok หรือ Facebook Group

https://www.canva.com/

2. LinkedIn Resume Builder

ฟีเจอร์หลักๆ ของ LinkedIn คือการหางาน ซึ่งแน่นอนว่า LinkedIn ก็มีฟีเจอร์ที่เรียกว่า LinkedIn Resume Builder ที่จะนำข้อมูลประวัติส่วนตัวและประวัติการทำงานที่เรากรอกใน LinkedIn มาสร้างเป็นเรซูเม่ให้เรา และเราสามารถปรับแก้ข้อมูลบนเรซูเม่ได้ทันทีเมื่อเรามีการอัพเดทข้อมูลบนหน้าโปรไฟล์ของเราใน LinkedIn

ข้อดี

• สะดวกและรวดเร็วเพียงแค่มีบัญชีผู้ใช้งานของ LinkedIn
• เนื่องจาก LinkedIn Resume Builder ใช้ข้อมูลจาก LinkedIn ในการสร้างทำให้เมื่อเราอัปเดตข้อมูลบน LinkedIn เรซูเม่ของเราก็จะมีการอัปเดตไปด้วย

https://www.linkedin.com/help/linkedin/answer/a551182

3. Indeed

Indeed นอกจากจะเป็นเว็บไซต์หางานแล้ว Indeed ยังมีฟังก์ชันให้ผู้ใช้งานสามารถทำเรซูเม่ได้ด้วย ทั้งนี้หลังจากผู้ใช้สร้างเรซูเม่เสร็จยังสามารถใช้เรซูเม่ที่สร้างสมัครงานบนเว็บไซต์ Indeed ได้ทันที

ข้อดี

• ใช้งานง่ายไม่ต้องสมัครสมาชิก
• มีรูปแบบเรซูเม่ให้เลือกหลายสไตล์และเป็นรูปแบบที่ตอบโจทย์ระบบ ATS (ผู้อ่านที่ยังไม่รู้ว่า ATS เรซูเม่คืออะไรสามารถอ่านได้ที่บทความ “ATS Resume คืออะไรแล้วทำไมถึงสำคัญ?”)
• ใช้บริการทำเรซูเม่ฟรี
• สามารถใช้เรซูเม่ที่สร้างจาก Indeed ในการสมัครงานบนเว็บไซต์ Indeed ทันที

https://resumebuilder.indeed.com/

4. Novoresume

Novoresume เป็นเว็บไซต์ทำเรซูเม่ที่รวบรวมเทมเพลตเรซูเม่สไตล์โมเดิร์น ที่เข้ากับยุคปัจจุบัน มีทั้งการใช้กราฟในการบอกความสามารถของผู้สมัคร ซึ่ง Novoresume จะมีระบบคำแนะนำเพื่อใช้ในการบอกว่ามีจุดไหนบนเรซูเม่ของเราที่ควรแก้ไขและควรเพิ่มเติมข้อมูลอะไรลงไปในเรซูเม่เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ข้อดี

• มีการใช้ AI เข้ามาช่วยตรวจสอบว่าเรซูเม่ของเราควรปรับในจุดไหนเพื่อทำให้เรซูเม่ของเราน่าสนใจยิ่งขึ้น
• เว็บไซต์ใช้งานง่าย เพียงแค่เลือกเทมเพลต ปรับแต่งเรซูเม่ และกรอกข้อมูล
• เทมเพลตเรซูเม่ของ Novoresume เป็นเรซูเม่แบบ ATS friendly

https://novoresume.com/

5. Zety

Zety เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการทำเรซูเม่ของต่างประเทศ นอกจากเรซูเม่เทมเพลตแล้วยังมีบริการเทมเพลตอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น CV, Cover Letter ที่มีการดีไซน์เทมเพลตโดยผู้เชี่ยวชาญที่รู้ว่า HR และ Recruiter นั้นให้ความสนใจในส่วนไหนของเรซูเม่

ข้อดี

• มีเรซูเม่เทมเพลตให้เลือกหลากหลาย
• เทมเพลตออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญที่รู้ว่า HR และ Recruiter ต้องการอะไรในเรซูเม่
• มีบริการเทมเพลตอื่นๆให้ใช้ เช่น CV และ Cover Letter

https://zety.com/resume-builder

6. Thai Resume

Thai Resume เว็บไซต์ทำเรซูเม่ของคนไทย ที่มีให้บริการเรซูเม่เทมเพลตและ Cover Letter ซึ่งมีการนำข้อมูลเข้ามาช่วยในการทำเรซูเม่ให้ออกมาโดดเด่น มีทั้งการตรวจสอบคำผิด เน้นประโยคที่น่าสนใจมาใส่ไว้ในเรซูเม่ (โดยใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูล) และ Cover Letter ของคุณ ใช้งานง่ายเพียงกรอกข้อมูลแล้วระบบจะจัดเรียงข้อมูลของคุณลงในเทมเพลตที่เลือกอัตโนมัติ

ข้อดี

• ใช้งานง่าย เพียงแค่เลือกเทมเพลตและกรอกข้อมูล
• มีการใช้ฐานข้อมูลเข้ามาประยุกต์ในการสร้างเรซูเม่และ Cover Letter
• มีเครื่องมือช่วยในการเช็กการสะกดคำ
• สามารถเลือกสร้างเรซูเม่ได้ทั้งแบบภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

https://thai-resume.com/

7. VisualCV

VisualCV เป็นเว็บไซต์ทำเรซูเม่ที่มีผู้ใช้บริการมากกว่า 4 ล้านคน ซึ่งจุดเด่นของ VisualCV นั้นคือการนำ AI เข้ามาใช้ในการทำเรซูเม่ ที่จะทำให้เรซูเม่ของคุณโดดเด่นและใช้คำเหมาะสมและถูกต้องตามหลักไวยากรณ์

ข้อดี

• ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้มากกว่า 4 ล้านคน
• มีการเอา AI เข้ามาประยุกต์ใช้ในการทำเรซูเม่ ทำให้เรซูเม่นั้นน่าสนใจและมีความโดดเด่นมากขึ้น
• มีการรับรองความปลอดภัยของข้อมูลของผู้ใช้

https://www.visualcv.com/

8. resumake

Resumake เว็บไซต์ทำเรซูเม่แบบมินิมอลและใช้งานง่ายเหมาะกับคนที่ต้องการใช้เทมเพลตง่ายๆ เน้นข้อมูล เมื่อคุณเข้าเว็บมาคุณจะเห็นเทมเพลตเรซูเม่ทั้งหมด 9 แบบ (จะเป็นเรซูเม่เทมเพลตที่นิยมใช้กันในต่างประเทศ) หลังจากที่คุณเลือกเทมเพลตที่ต้องการแล้วตัวเว็บไซต์จะให้คุณกรอกข้อมูลตามเทมเพลตนั้นๆ ตามลำดับ

ข้อดี

• ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
• มีเทมเพลตเน้นข้อมูล เป็นเรซูเม่ที่นิยมใช้ในต่างประเทศ

https://latexresu.me/

9. ResumeMaker.Online

ResumeMaker.Onlineเป็นเว็บไซต์ทำเรซูเม่ฟรีที่สามารถใช้ได้โดยที่ไม่ต้องลงทะเบียน พร้อมทั้งมีการใช้ AI เข้ามาประยุกต์ใช้ในการสร้างเรซูเม่ โดย AI จะเข้ามาช่วยในการปรับประโยคที่ใช้ให้ดูน่าอ่านและน่าสนใจมากขึ้น พร้อมทั้งใช้ AI เข้ามาช่วยในการจัดหน้าเรซูเม่ให้ดูง่ายขึ้น หรือจะให้ AI ช่วยปรับแต่งเรซูเม่เก่าของคุณก็ได้

ข้อดี

• มี AI เข้ามาช่วยทำให้เรซูเม่นั้นน่าสนใจมากขึ้น
• สามารถอัปโหลดเรซูเม่เก่าเพื่อให้ AI ช่วยปรับแต่งให้ใหม่ได้
• สามารถปรับเรซูเม่ให้ผ่านระบบ ATS ได้

https://www.resumemaker.online/

10. Kickresume

Kickresume เป็นเว็บไซต์ทำเรซูเม่ที่มีการแบ่งเรซูเม่ออกตามแต่ละสายงานให้เราเลือกใช้ และที่น่าสนใจคือมีตัวอย่างของเรซูเม่ที่ได้รับการจ้างงานจากบริษัทดังๆ ระดับโลก เช่น Adidas, Amazon, Apple และอื่นๆ ให้ดูมากกว่า 100 แบบ

ข้อดี

• มีตัวเลือกเทมเพลตที่หลากหลายทั้งแบบที่เน้นข้อมูลและแบบที่มีกราฟบอกความสามารถ
• มีตัวอย่างเรซูเม่ของพนักงานที่ได้รับการจ้างงานจากบริษัทระดับโลกให้ดู
• ใช้งานง่ายด้วยระบบ Drag and drop (เลือกและวาง)

https://www.kickresume.com/en/help-center/resume-samples/

สรุป

จะเห็นได้ว่าในแต่ละเว็บไซต์ที่เราหยิบขึ้นมานั้นมีเทมเพลตเรซูเม่ให้เลือกใช้มากมาย แต่สิ่งที่สำคัญและจำเป็นที่สุดคือเนื้อหาและข้อมูลที่ครบถ้วน พร้อมทั้งมีรูปแบบที่ถูกต้องที่สามารถผ่านระบบ ATS (ATS friendly) เพื่อให้เรซูเม่ของเราเข้าไปถึง HR หรือ Recruiter และดำเนินการในขั้นตอนถัดๆ ไป ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องตรวจสอบความถูกต้องและความครบถ้วนของข้อมูลทุกครั้งก่อนยื่นเรซูเม่

บทความที่เกี่ยวข้อง

• ATS Resume คืออะไรแล้วทำไมถึงสำคัญ?
• ไขข้อสงสัย Resume กับ CV ต่างกันยังไง? พร้อมทริคที่ไม่ควรพลาด
• Applicant Tracking System (ATS) เครื่องมือที่ HR และ Recruiter ต้องรู้จัก!